ค่าเรียกรถเป็นค่าตีรถเปล่าของแท็กซี่เพื่อไปรับผู้โดยสารให้ถึงปลายทางที่ผู้โดยสารอยู่ให้เร็วที่สุด โดยในระหว่างทางรถแท็กซี่จะไม่สามารถรับผู้โดยสารรายทางได้ ซึ่งค่าเรียกรถจะอยู่ตั้งแต่20บาท-50 บาทแล้วแต่ช่วงเวลาที่คนเรียกใช้รถและปริมาณรถแท็กซี่มีให้บริการขณะเวลานั้น

คำตอบ:"มีครับ"เพราะเรามีสมาชิกที่เข้าร่วมให้บริการทุกภูมิภาคหลายพันคัน กระจายกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก หรือภาคใต้ แค่คุณโทรหาเราหรือแอดไลน์ติดต่อมาหาเรา แล้วรอรับการบริการได้เลย

คำตอบ:หากคุณจำเป็นต้องเรียกใช้บริการพี่ๆรถแท็กซี่เพื่อให้ไปส่งยังสถานที่ต่างจังหวัด เพื่อทำธุระเร่งด่วน บ้างเพื่อท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ หรือจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งเอกสารสำคัญเร่งด่วน ส่งพัสดุเร่งด่วนให้บ้าง หลายคนคงอยากรู้คำตอบ หากเราจำเป็นต้องเรียกแท็กซี่ไปต่างจังหวัดจริงๆ เราจะเลือกจ่ายค่าบริการแบบไหน ระหว่างแบบเหมาแท็กซี่หรือแบบกดมิเตอร์ แล้วแบบไหนที่คุณคิดว่าประหยัด คุ้มค่า ตอบตรงนี้เลยว่า ถ้าหากเดินทาง ระยะทางเกินร้อยกิโลขึ้นไป แบบเหมาจะคุ้มค่าและประหยัดกว่าครับ

คำตอบ:ก่อนอื่นเลยก็ต้องท้าวความกันก่อนว่า อัตราค่าบริการรถแท็กซี่บ้านเรานั้นสตาร์ทกันที่ราคาเท่าไหร่

อัตราค่าโดยสารรถนั่งสาธารณะ(แท็กซี่) ค่าโดยสารจะเป็นดังนี้

1. กรณีรถยนต์รับจ้าง ที่มีลักษณะเป็นรถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน และรถยนต์นั่งสามตอนแวน ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

• ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 40.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

2. กรณีรถยนต์รับจ้างนอกจากข้อ (1) ให้กำหนด ดังต่อไปนี้

• ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
• ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท
  

• กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้กำหนดอัตรานาทีละ 3.00 บาท
• กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในค่าโดยสารอีก 20 บาท
• กรณีการจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถยนต์รับจ้างนั้น จอดรอคนโดยสารอยู่ในท่าอากาศยาน ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท

** โปรแกรมคำนวณนี้ ใช้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้ **

ที่มา:https://app.memo8.com/taxi-meter-calculator/

คำตอบ:จากข้อมูลข้างบนจะเห็นได้ว่า อัตราการคำนวณค่าแท็กซี่บ้านเรานั้นจะคำนวณตามระยะทางปรับขึ้นเป็นขั้นบันได ยิ่งรถวิ่งในระยะทางที่ไกลขึ้นเท่าไหร่ ราคามิเตอร์ก็จะปรับสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

ข้อดีของการเหมาจ่ายคืออะไร?

ค่าโดยสารตายตัวไม่ชาร์จเพิ่ม ถึงรถจะติดแค่ไหนก็ไม่มีบวกเพิ่มรู้ราคาที่แน่นอนก่อนใช้บริการ ทำให้เราทราบอัตราค่าบริการล่วงหน้าก่อนเรียกใช้บริการ ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายคิดค่าโดยสารตามจริง ตามระยะทาง เราคิดอัตราค่าบริการตามจริง ตามระยะทางคำนวณระยะทางด้วยระบบGPS ไปถึงแค่ไหน จ่ายแค่นั้น แฟร์ๆทั้งสองฝ่ายไม่มีค่าบริการเรียกรถ ไม่ต้องจ่ายค่าบริการเรียกรถเพิ่ม สบายใจ หายห่วงได้รถเร็วขึ้น เพราะเราจะหารถที่ไกล้เคียงที่สุดไปรับ ทำให้เดินทางได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว ไม่พลาดนัดสำคัญค่าบริการที่เป็นธรรม สามารถต่อรองราคาได้ วินๆทั้งสองฝ่าย